เผยวิธีลดน้ำหนักแบบยั่งยืน ทำให้สุขภาพดีลดความเครียดและห่างไกลโรค ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย

เผยวิธีลดน้ำหนักแบบยั่งยืน ทำให้สุขภาพดีลดความเครียดและห่างไกลโรค ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย

การลดน้ำหนักอย่างได้ผลต้องอาศัยเวลาและความสม่ำเสมอ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ไม่ควรทำเพียงเพื่อหวังผลระยะสั้นๆ เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายระยะยาว เช่น ระบบเผาผลาญแย่ลง ทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มมากกว่าเดิมอีกได้ การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ และให้รางวัลกับตัวเอง จะช่วยให้มีกำลังใจในการทำอย่างต่อเนื่อง

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

กุญแจสำคัญในการลดน้ำหนักคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างยั่งยืน เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เน้นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, ปลา, ไข่, ถั่ว เพิ่มผักและผลไม้หลากสีสันเพื่อให้ได้รับวิตามินและไฟเบอร์ เลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอย่างข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารทอด น้ำหวาน และขนมหวาน ควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และอาจเพิ่มมื้อว่างเพื่อลดความหิว การทานอาหารอย่างมีสติ เคี้ยวอาหารช้าๆ ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น

ADVERTISEMENT
ลด 69%
[E-Coupon] เปาโล - ตรวจสุขภาพตามช่วงวัย สำหรับอายุ 25-34 ปี
ลด 60%
ของแท้ Self-Healing Diet Method Book Healthy Healthy All Disease Diet Therapy Eat Healthy Self-Healing Daily Di
ลด 60%
ยาจีน Healthy Flaxseed Fig Mulberry Black Bean Wolfberry Healthy Tea ยาจีน Healthy Nourishing Flaxseed Fig Mulberry Black Bean Wolfberry Healthy Tea 8.03
เอเน่แคปซูล ลดพุงลดหน้าท้อง ลดไขมันรอบเอว ช่วยลดอาการบวม ลดโซเดียม  ฟื้นฟูระบบเผาผลาญลดคอเรสเตอรอล
ลด 60%
ของแท้ 2.03 Four Seasons Healthy Congee Diet Nutrition Healthy Healthy Healthy Diet Nutritional Diet Nutritional Diet Nutritional Diet Nutritional Nutritional Nutritional Nutritional Nutritional Nutritional Nutritional Nutritional Nutritional Nutritional
ชาขับโซเดียมเจ้าแรกในไทย ชาลดโซเดียม ชาผอม #MAXST บวมเค็ม ลดยาก ดื้อยา ชาลดเค็ม ของแท้ ลดความอ้วน ดีท็อก

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนักและรักษารูปร่าง ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ ควบคู่ไปกับการฝึกความแข็งแรง ยกเวท เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน แม้ในขณะที่ร่างกายพัก ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30-60 นาที เลือกกิจกรรมที่ชอบและสนุก เพื่อให้สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว ทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น และยังทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ขาดแรงจูงใจในการออกกำลังกาย ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้น่านอน หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรือดูทีวี ก่อนเข้านอน เพราะแสงสีฟ้าจากจออาจทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

น้ำเปล่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ลดความอยากอาหาร ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือปรับปริมาณให้เหมาะสมกับกิจกรรม และสภาพอากาศ

5. จัดการความเครียด

ความเครียดส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อการสะสมไขมัน ควรหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ การฟังเพลง การออกกำลังกาย การใช้เวลากับธรรมชาติ การพูดคุยกับเพื่อน หรือทำกิจกรรมที่ชอบ

ADVERTISEMENT