เปิดภาพ Turkish Baths บนเรือไททานิค อายุ 113 ปี ที่อดีตเคยเป็นห้องอบไอน้ำบนเรือที่หรูหราที่สุดในโลก
บนเรือไททานิคท่ามกลางเหล่าบุคคลชนชั้นสูงจากอังกฤษ ยุโรป และอเมริกา หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาโปรดปรานไม่น้อยกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆบนเรือ ก็คือ Turkish Baths หรือ ห้องอบไอน้ำแบบตุรกี
มันเป็นสถานที่พักผ่อนสุดพิเศษสำหรับบุคคลชนชั้นสูงบนเรือ Titanic ห้องอบไอน้ำแบบตุรกีตั้งอยู่บนชั้น F Deck ระหว่างสระว่ายน้ำและห้องรับประทานอาหารชั้นสาม ณ ช่วงเวลาขณะนั้น (ปี 1911) ว่ากันว่านี่คือห้องอบไอน้ำบนเรือ ที่มีความหรูหราอลังการมากที่สุดในโลก
ภายในห้อง Turkish Baths อ่างอาบน้ำได้รับการออกแบบในสไตล์ Moorish ที่อ่อนช้อยงดงาม พร้อมด้วยเครื่องทำน้ำร้อนที่ช่วยให้แขกรู้สึกผ่อนคลาย และผ้าคลุมนุ่มๆเพื่อสร้างความอบอุ่นจากอากาศที่หนาวเย็น โดยมีบริกรคอยเอาใจใส่บริการเป็นอย่างดี ผู้โดยสารที่จะเข้าไปใช้บริการ จะต้องไปที่สำนักงานของ Purser's บนชั้น C Deck เพื่อรับตั๋วในราคา 4 เหรียญชิลลิง ( หรือราวๆ £19 ในปัจจุบัน) สำหรับใช้บริการห้องอบไอน้ำ Turkish Baths โดยแบ่งสัดส่วนเวลาการใช้บริการ โดยแยกตามเพศอย่างเป็นกิจลักษณะ ดังนี้
ให้บริการสำหรับผู้หญิง 9:00 น. ถึง 12:00 น.
และสำหรับผู้ชาย 14:00 น. และ 18:00 น.
The Cool Room เป็นพื้นที่การใช้งานหลักของ Turkish Baths ที่ได้รับการตกแต่งด้วยการผสมผสานระหว่างสไตล์ Moorish และ Arab เพื่อทำให้เกิดกลิ่นอายแบบตุรกี ผนังห้องอบไอน้ำในบริเวณนี้ จะถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเขียว - น้ำเงิน พร้อมประดับประดาด้วยงานไม้สักแกะสลัก โดยมีโคมไฟสีบรอนซ์ที่มีความงดงามโดดเด่น
ในขณะที่ผนังอีกด้านหนึ่ง เป็นน้ำพุที่ทำจากหินอ่อน ในส่วนเพดาน จะเป็นเพดานลึก และทาด้วยสีแดงเข้ม ในส่วนของคานที่พาดผ่านเพดานจะทาสีทองเพื่อให้ตัดกับสีแดงของฝ้าเพดาน และในส่วนโคมไฟแขวนได้รับการออกแบบโดยใช้ขายึดที่ทำจากไม้สัก นอกจากนี้ยังมีช่องหน้าต่างปลอมที่ถูกแกะสลัก และซ่อนอยู่หลังผ้าม่านแบบ Cairo ในขณะที่การออกแบบประตูถูกประดับด้วยโดมสีทองอร่าม ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหรา
และเพื่อให้ได้บรรยากาศที่แปลกใหม่ จึงมีการนำเก้าอี้พับไม้สัก ,โต๊ะดามัสกัส และเก้าอี้นอนหุ้มเบาะเพื่อการพักผ่อนมาจัดวางทั่วทั้งห้อง นอกจากนี้ยังมีม่านเล็กๆ เพื่อใช้สำหรับเปลี่ยนชุดนั่นเอง Turkish Baths เป็นเพียงแค่ Item เล็กๆส่วนหนึ่งของเรือ Titanic เท่านั้น เรื่องราวที่น่าสนใจของเรือลำนี้ ยังมีสิ่งที่น่าค้นหาอีกมาก แม้จะจมดำดิ่งอยู่ใต้มหาสมุทรมาเป็นเวลาถึง 113 ปี แล้วก็ตาม
อ้างอิงโดย :