Vicente Aparicio แฟนบอลที่ได้สิทธิ์ ในการชมทีมรักลงเล่นตลอดกาล
"Vicente Navarro Aparicio" กว่า 40 ปี ที่เขาไม่สามารถมองเห็นทีมฟุตบอลที่เขารักด้วยดวงตา แต่เขาสัมผัสทีมรักของเขาได้ด้วยหัวใจ ...
เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2019 สโมสรบาเลนเซีย สโมสรดังแห่งลาลีกาสเปน ได้เผยแพร่วิดีโอหนึ่งที่มีเนื้อหากินใจบนสื่อของพวกเขา เนื้อหาในวีดีโอนั้น คือ เรื่องราวชีวิตของ Vicente Navarro Aparicio ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานแฟนบอลที่จงรักภักดีต่อสโมสรแห่งนี้มายาวนาน
เรื่องราวของ Vicente Navarro Aparicio ไม่เคยถูกลืมเลือน แม้เขาจะไม่มีลมหายใจอยู่กับเราแล้ว ลูกชายของ Vicente Navarro Aparicio ได้บอกเล่าชีวิตพ่อของเขาผ่านวีดีโอที่มีความยาว 2 นาที
Vicente Aparicio คือแฟนบอลตัวยงของทีมบาเลนเซียมาตั้งแต่เขายังหนุ่มๆ เขาให้การสนับสนุนสโมสรแห้งนี้ตลอดมา และมักจะเข้าสนามเพื่อไปแหกปากตะโกนเชียร์ทีมรักอยู่เสมอ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง Vicente Aparicio ต้องรีบไปชมเกมส์มากๆเขากระวนกระวายใจว่าจะไปไม่ทันก่อนสนามเต็ม เขาจึงยอมลงทุนไม่เสียเวลาโดยการกระโดดข้ามคลองที่อยู่ข้างๆสนามเพื่อไปเชียร์ทีมรักให้ทันเวลา นี่คือสิ่งที่ยืนยันว่า Vicente Aparicio รักสโมสรแห่งนี้สุดหัวใจ
ในอดีตพื้นที่รอบๆ สนามเมสตาย่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเพาะปลูก ซึ่งมีคลองชลประทานใหลผ่านทางด้านทิศใต้ของสนาม ซึ่งคลองแห่งนี้มีชื่อว่า เมสตาย่า ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับสนามของทีมบาเลนเซียที่ตั้งอยู่ใกล้ๆนั่นเอง
เมื่อเขามีลูกชาย Vicente Aparicio พาลูกชายของเขาไปชมทุกๆ เกมส์ที่บาเลนเซียลงเล่นในบ้านตั้งแต่เล็กจนโต ซึ่งมันได้หลอมรวมเป็นความผูกพันธ์ในวิถีชีวิตระหว่างฟุตบอล พ่อ ลูก และครอบครัวที่กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียว
จนกระทั่ง Vicente Aparicio อายุย่างเข้า 50 ปี สุขภาพของเขาทำให้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เขามีปัญหาที่ม่านตาจนทำให้เขาตาบอด แม้เหตุการณ์นี้จะทำโลกภายนอกของเขามืดมิดลง แต่โลกภายในความรู้สึกของเขากำลังจะเปิดขึ้นนับจากนี้
Vicente Aparicio ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวครับ ว่าเขาจะไม่ฟังเกมส์ทางโทรทัศน์ เขาต้องการไปที่สนามเมสตาย่าเหมือนเช่นเดิม เหมือนในวันวานที่เขาเคยเข้าไปตะโกนแหกปากเชียร์ทีมรักแบบถึงไหนถึงกัน เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมีความสุข แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเห็นทีมฟุตบอลที่เขารักด้วยดวงตาอีกต่อไป แต่เขาสัมผัสทีมรักของเขาได้ด้วยหัวใจ
ลูกชายของเขามักจะเล่าบรรยากาศในเกมส์การแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบให้พ่อฟังอยู่เสมอ แน่นอนว่า Vicente Aparicio มีความรู้สึกร่วมไปกับสิ่งที่ลูกชายของเขาเล่า ไปพร้อมๆกับบรรยากาศการเชียร์อันคุ้นชินที่เขาได้ยิน
จนกระทั่งเมื่อปี 2004 มันเป็นปีที่ Vicente Aparicio เฝ้ารอมาทั้งชีวิต ลูกชายของเขาเล่าบรรยากาศในเกมส์ให้พ่อของเขาฟังเฉกเช่นปกติครับ แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดของการเล่าเรื่องราวบนสนามในวันนั้น คือการที่ลูกชายของเขากระซิปข้างๆหูว่า "พ่อครับเราคว้าแชมป์ลาลีกาสำเร็จแล้ว" มันเป็นวินาทีที่ทำให้ Vicente Aparicio มีความสุขที่สุดในชีวิต
และในปีเดียวกันนั้นเองบาเลนเซียยังสามารถคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก (ในอดีตชื่อยูฟ่าคัพ)ได้เพิ่มอีกหนึ่งถ้วย นี่คือปีที่ Vicente Aparicio จะไม่มีทางลืมความทรงจำนี้ไปตลอดชีวิต
ลูกชายของ Vicente Aparicio บอกว่า พ่อของเขาอยากจะมีชีวิตอยู่ให้ครบร้อยปี แต่ความตายคือสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถหนีพ้น เมื่ออายุย่างเข้า 90 ปี Vicente Aparicio ได้หมดลมหายใจลาจากโลกนี้ครับ การพบกันเป็นสิ่งชั่วคราว การพลัดพรากจากกันเป็นสิ่งสมบูรณ์ แต่เรื่องราว Vicente Aparicio จะยังคงอยู่คู่กับสโมสรต่อไป
เมื่อเขาเสียชีวิต สโมสรบาเลนเซียแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ Vicente Aparicio แฟนบอลที่จงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง และให้การตอบแทนด้วยความเคารพสูงสุดครับ
ความตายไม่อาจพรากความทรงจำที่เขามีต่อบาเลนเซียทีมรักได้ กว่า 40 ปีที่เก้าอี้หมายเลข 164 แถวที่ 5 ของอัฒจันทร์ฝั่งหลัก มันเป็นที่นั่งชมทีมรักของ Vicente Aparicio ตลอดมา และมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป
เมื่อสโมสรบาเลนเซียได้สร้างรูปปั้นให้ Vicente Navarro Aparicio เพื่อตอบแทนความรักที่เขามีต่อสโมสร และให้สิทธ์ในการชมทีมรักลงเล่นในสนามแห่งนี้ตลอดกาล
รูปปั้นในท่านั่งชมเกมส์ของ Vicente Navarro Aparicio ถูกนำมาติดตั้งทดแทนในตำแหน่งเก้าอี้หมายเลข 164 ตำแหน่งเก้าอี้ตัวเดิมที่เขามีความผูกพันธ์มาครึ่งชีวิต
ในวันที่มีการแข่งขันเขาก็ยังนั่งชมเกมส์อยู่ที่นี่ หรือ แม้แต่ในวันที่สนามว่างเปล่าชายคนนี้ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ที่ๆเขาคุ้นเคย และมีความทรงจำดีๆตลอดมาจนกระทั่งเขาจากไป นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่าอะไรที่มันเกิดขึ้นมาจากใจมันสวยงามเสมอ
แม้ Vicente Navarro Aparicio จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ครบร้อยปีตามความปราถนาของเขา แต่สโมสรบาเลนเซียทำให้แน่ใจว่าจิตวิญญาณของเขายังคงอยู่กับสโมสร และสนามเมสตาย่าที่เขารักไปตลอดกาลครับ
อ้างอิงโดย :