แก๊งโจรเฒ่า ปล้นเหนือเมฆเจาะห้องนิรภัยใต้ดินที่แน่นหนาที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษ โกยอัญมณีมูลค่าไม่น้อยกว่า 14 ล้านปอนด์...(EP.2)
ต่อจากตอนที่แล้ว (EP.1) ...
https://bangkanpai.com/post/3755580
หลังจากที่แก๊งโจรเฒ่าได้อุปกรณ์ และฝึกจนพร้อมใช้ ทั้งกลุ่มจึงเลือกสุดสัปดาห์ที่เหมาะกับการปล้นครั้งนี้ มันคือช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ซึ่งมันจะทำให้พวกเขามีเวลามากพอในการทะลวงกำแพงห้องนิรภัย
คืนวันที่ 2 เมษายน 2015 ถนนในลอนดอนนั้นเงียบกริบ และทั้งกลุ่มก็ได้นัดพบกันที่ Hatton Garden ด้วยการปลอมตัวเป็นพนักงานซ่อมบำรุงโครงสร้างอาคาร พวกเขาทั้งหมดสอมเสื้อคลุมสะท้อนแสง
Reader และ Perkins รีบมุ่งไปที่ส่วนห้องนิรภัยของ Hatton Garden เขาพบว่าประตูหนีไฟถูกล็อค แต่เหล่าโจรผู้เชี่ยวชาญก็มีผู้สมรู้ร่วมคิดที่อยู่ด้านใน Hatton Garden ผู้สมรู้ร่วมคิดที่ว่านี้มีชื่อแฝงว่า Basil และเขาก็มีกุญแจของประตู
สิ่งที่ไม่ธรรมดาของอาชญากรรมครั้งนี้ คือ ไม่มีใครรู้เลยว่า Basil คือใคร เท่าที่รู้คือ เหมือนเขาจะคอยเป็นผู้นำทาง แล้วก็แยกย้ายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อเข้ามาภายในตัวอาคารได้สำเร็จ พวกเขาก็ได้รีบทำลายระบบกล้องวงจรปิด แล้วตัดสัญญาณเตือนภัยอย่างรวดเร็ว ด้วยการตัดสายโทรศัพท์ และพังเสาส่งสัญญาณทิ้งไปเสียเลย
หนทางเดียวที่จะไปชั้นใต้ดินได้ก็คือการใช้ลิฟท์ แต่พวกเขาไม่สามารถเปิดระบบเพื่อเข้าใช้งานลิฟท์ได้ จึงเปลี่ยนมางัดประตูลิฟท์ด้วยชะแลง แล้วไปทางปล่องลิฟท์แทน ด้วยการไต่สายสลิงโยงลิฟท์ลงมาที่ห้องนิรภัยโดยตรง
จากนั้น Reader และ Perkins ก็จัดเตรียมสว่านอุตสาหกรรม (Coring) ที่ขโมยมา และเริ่มขั้นตอนอันยากลำบาก คือ การเจาะเข้าไปในกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กหนา 20 นิ้ว
พวกเขาตั้งใจจะเจาะรูสามรูแล้วทุบเข้าหากันเพื่อให้ลูกทีมที่ผอมที่สุดมุดเข้าไปได้ หลังจากเจาะต่อเนื่องมานานเกือบ 5 ชั่วโมง พวกเขาเจาะรูเข้าไปในกำแพงได้สำเร็จ ซึ่งมันมีขนาดความกว้าง 10 x 18 นิ้ว
แต่มันยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังขวางพวกเขาอยู่ คือ เหล็กกล้าที่ดันตู้นิรภัยเอาไว้ ซึ่งมันถูกยึดไว้กับพื้น และเพดาน
Reader รู้มาก่อนแล้วว่าจะต้องมีผนังเหล็กกล้ากั้นไว้อีกชั้น และเขาก็มีเครื่องมือเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว พวกเขาได้นำเครื่องกระทุ้งไฮดรอลิกแรงดันขนาด 10 ตัน มาด้วย พวกเขาจะเอามันไปใช้ผลักเหล็กกล้าที่ด้านหลังของตู้นิรภัย
แต่แล้วก็เกิดหายนะ พวกเขาเจอปัญหาใหม่ เมื่อรู้ว่าเครื่องกระทุ้งไฮดรอลิกที่เอามานั้น มันใช้ไม่ได้ผล กว่า 1 ชั่วโมงที่พวกเขาพยายามใช้มันครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มันก็ล้มเหลว
ในคืนที่เงียบสงบของเทศกาลอีสเตอร์ปี 2015 แก๊งค์โจรเฒ่าทั้ง 7 เหลืออีกเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้นในการเจาะตู้นิรภัยใต้ดิน
แต่อุปสรรคสุดท้ายที่กั้นพวกเขากับ ทอง ,เพชร ,แร่ที่มีค่า และอัญมณี คือ เหล็กกล้า และความซวยอีกอย่างคือคันโยกของเครื่องกระทุ้งไฮดรอลิกขนาด 10 ตัน ก็ได้พังลง
พวกเขาจะไม่ยอมให้คันโยกที่พังนี้ หยุดความคิดในการปล้นครั้งใหญ่ที่สุด ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ เขาวางแผนเรื่องนี้มานานถึง 3 ปี และพวกเขาได้กลิ่นเงิน จึงไม่มีทางล้มภารกิจนี้ง่ายๆแน่
แต่มันก็ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่พวกเขาวางแผนมารอบคอบจึงยังพอมีเวลาเหลือให้ปรับแผนใหม่ได้ทัน มันจึงทำให้มีเวลาไปร้านขายเครื่องมือเพื่อซื้อคันโยกอันใหม่ในช่วงเช้าวันถัดมา
พวกเขาซื้อคันโยกใหม่มาในราคา 110 ปอนด์ และคืนนั้นพวกเขาก็ย้อนกลับไปที่บริษัทนิรภัยอีกครั้ง
ในที่สุดแก๊งค์ลุงเฒ่ามากประสบการณ์ก็ทุบเปิดทางฝ่าด่านกำแพงปูน และเหล็กกล้าเข้าไปในห้องนิรภัยได้สำเร็จ จากนั้นก็เจาะตู้นิรภัยภายในห้องที่มีมากกว่า 100 ตู้
พวกเขาได้เพชร ทอง และของมีค่ามากมาย ซึ่งพวกเขาได้นำมันยัดใส่ถังขยะแล้วขนมันออกมา ซึ่งประเมินมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่พวกเขาขนออกมาได้มากกว่า 14 ล้านปอนด์ (ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท)
พวกเขาขนของมีค่า และอัญมนีมูลค่ามหาศาลใส่ถังขยะที่เตรียมไว้ จากนั้นลำเลียงทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ภายในถังขยะออกมาในช่วงกลางดึก โดยแต่งตัวเป็นคนงาน และขึ้นรถหนีไปอย่างสบายอารมณ์
4 วัน หลังจากที่เริ่มการปล้น บริษัทนิรภัย Hatton Garden เปิดทำการตามปกติ พวกเขาพบร่องรอยโจรกรรมในทันที
ตำรวจรีบไปตรวจเทปวงจรปิด แต่พวกโจรได้นำเทปออกไปด้วย ที่จริงมันแทบไม่เหลือร่องรอยที่สาวตัวแบบจะๆได้เลย นอกจากใบเสร็จซื้อของ และหนังสือราคา 10 ปอนด์ ที่พวกโจรซื้อมาเพื่อศึกษาหลักจิตวิทยาสำหรับพวกหัวทึบ
ตำรวจไม่พบรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เพราะโจรรู้วิธีลบรอยนิ้วมือออกไป ปฏิบัติการอันเหนือชั้นของ Reader และ Perkins นั้นพิสูจน์ได้ว่ายอดเยี่ยม เพราะมันมีคนไม่กี่คนในเกาะอังกฤษที่สามารถทำการปล้นแบบนี้ได้
ตำรวจสืบสวนคดีนี้โดยไปค้นข้อมูลจากประวัติการปล้นของพวกโจรรุ่นเก๋า ที่เคยปล้นในลักษณะทำนองเดียวกัน และสองคนที่ตำรวจพบข้อมูลก็คือ Brian Reader และ Terry Perkins นั่นเอง
ในขณะเดียวกัน Reader และ Perkins ต่างชะล่าใจไปหน่อย และค่อนข้างประมาท พวกเขาไปผับที่ North London และโม้เรื่องที่พวกเขาทำ พวกเขาอหังการ และรู้สึกว่าจะปล้นทำไม ถ้าโม้ไม่ได้ เราปล้นสำเร็จ และได้ของมาแล้วนี่
6 สัปดาห์หลังการปล้น Reader และ Perkins คิดว่ามันน่าจะปลอดภัยที่จะขนย้ายทรัพย์สินที่ได้จากการปล้นมา แต่ตำรวจได้เตรียมพร้อม และดักรอพวกเขา
ในตอนที่พวกเขาขนของไปไว้ที่อพาร์เมนต์ของลูกสาว Perkins ตำรวจดักรอ และเข้าชาร์จจับกุมได้สำเร็จ
แก๊งค์โจรเฒ่าทั้งหมดได้วางมือสมใจอยาก โดยหัวโจกอย่าง Reader โดนโทษ 6 ปีในเรือนจำ ส่วน Perkins โดน 7 ปี พวกเขาแทบไม่สนใจเงินทอง พวกเขาแค่อยากได้ชื่อเสียง มันตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าตัวเองก่อการปล้นครั้งนี้
และสำหรับ Basil ตัวละครลับที่โผล่เข้ามาแว็บเดียวแล้วก็หายไป เขาถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมตัวได้คาห้องพัก เมื่อเดือนมีนาคม 2018 เขามีชื่อจริงว่า Michael Seed อายุ 58 ปี และโดนจำคุกในคดีนี้เป็นเวลา 10 ปี
แม้พวกเขาจะต้องไปสงบจิตสงบใจกับความตื่นเต้นในคุก แต่วีระกรรมการปล้นที่พวกเขาทำ จะกลายเป็นตำนานการปล้นปล้นเหนือเมฆของเกาะอังกฤษไปอีกนาน
***หมายเหตุสำหรับตัวเลขมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยออกมา สื่ออังกฤษ และสื่ออื่นๆที่รายงานข่าว เช่น BBC ,Independent ,Telegraph ,Theguardian หรือ the sun ต่างรายงานไม่ตรงกัน แต่ส่วนใหญ่จะอ้างอิงตามที่อาชญากรกล่าวให้การต่อศาล คือ 14 ล้านปอนด์ (ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท) แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายๆคน ในขณะนั้น ต่างประเมินว่าทรัพย์สินที่หายไปมีมูลค่ามากกว่านั้น
อ้างอิง :
https://www.bbc.com/news/uk-england-london-35231864